สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่ หลายต่อหลายคนนั้น คงจะมีปัญหาและค่อนข้างที่จะหนักใจในการที่จะเลือกว่าการท่องเที่ยวพัทยาครั้งนี้ จะพักโรงแรมแบบไหน ราคาเท่าไหร่ สำหรับมือใหม่นั้นค่อนข้างที่จะปวดหัว พอสมควร แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ท่องเที่ยวกันอย่างเป็นประจำ นั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร และสามารถที่จะจองผ่านเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบาย มีปัญหาก็สามารถที่จะยกเลิกได้ แถมยังมีส่วนลดพวกบัตรเครดิตอีกตั้ง 10%

ดังนั้นจึงเป็นข้อดีของการจองผ่านเว็บไซต์เอาไว้ก่อน แต่ก่อนที่จะจองผ่านเว็บไซต์อย่างที่บอกนั้นก็จะต้องมีปัจจัยในการที่จะเลือกโรงแรม หรือบ้านพักพัทยา ว่าจะเลือกแบบไหน จะจองที่นี้ดีไหม เอามาเป็นข้อมูลสำหรับสนับสนุนการตัดสินใจทั้งนั้น

โดยปกตินั้น สิ่งที่จะนำมาคิดและพิจารณาในการเลือกที่พักนั้น บอกได้เลยว่าดูหลากหลายอย่าง ปัจจัยแรกก็คือดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของโรงแรมที่โพสต์ตามเว็บไซต์ต่างๆ เมื่อดูแล้วปัจจัยภายนอกดูดี น่าพัก น่าสนใจ ต่อมาก็มาดูในเรื่องของราคา ว่าอยู่ในงบประมาณที่เราตั้งใจก่อนว่า สามารถที่จะจ่ายได้ แล้วสิ่งหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลยคือจะต้องเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกด้วย และการจองนั้นมีโปรโมชั่นในการเข้าพักหรือไม่ ยิ่งโปรโมชั่นมาก ราคาลด คุณภาพสูงเราก็ยากเข้าพัก และเมื่อดูทุกทุกอย่างผสมกันแล้วจึงทำการเลือกบ้านพักพัทยาและทำการจอง

สำหรับ วันนี้ ขอพาทุกท่านเที่ยวสิงคโปร์ไปพบความตื่นตาตื่นใจกับความสวยงามของสวนสวย ซึ่งจุดหมายปลายทางของเราในครั้งจะเป็นการเยี่ยมชมดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงามและหาดูได้ยากยิ่ง ความมหัศจรรย์แห่ง การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ประเทศสิงคโปร์ จารึกประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ด้วยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “สวนเบย์ เซาธ์” (Bay South) บนพื้นที่กว่า 54 เฮคเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอภิมหาโครงการ “Gardens by the Bay” สวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่า ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถึง 101 เฮคเตอร์ โอเอซิสแห่งใหม่ใจกลางประเทศสิงคโปร์ ที่รวบรวมพรรณไม้จากทั่วทุกมุมโลกมาจัดแสดงเต็มพื้นที่สิงคโปร์ก้าวสู่การ เป็น “เมืองในสวน” ที่พื้นที่ทั้งประเทศถูกรายล้อมด้วยพืชพรรณไม้ดอกนานาชนิด ที่พร้อมเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับทัวร์สิงคโปร์ให้เป็นเมืองน่าอยู่

การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay) ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมอย่างเป็นทางการแล้ว โดยผู้เข้าชมจะได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจและตระการตากับพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ที่ประกอบด้วยสวนอันงดงามพรรณไม้ที่โดดเด่น รวมถึงการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับพฤกษศาสตร์ได้อย่างลงตัว “สวนเบย์ เซาธ์” (Bay South) ที่ประกอบด้วยไฮไลท์สำคัญอย่าง ฟลาวเวอร์ โดม (Flower Dome) ส่วนจัดแสดงพรรณไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียนและคลาวด์ ฟอร์เรสต์ (Cloud Forest) ส่วนจัดแสดงพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้นซูเปอร์ทรีส์ (Supertrees) โครงสร้างแบบต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบให้มีความสูง ตั้งแต่ 25 – 50 เมตรหรือเทียบเท่ากับตึกที่มีความสูง 9 – 16 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 18 ต้น ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ (Vertical Garden) ที่ปกคลุมด้วยไม้เลื้อยเขตร้อน พืชอิงอาศัย และเฟิร์นเมืองร้อน ที่โดเด่นด้วยแสงสียามค่ำคืนสวนเรือนกระจก (Horticultural Themed Gardens) ที่แสดงออกถึงที่สุดของศิลปะการจัดสวนและการปลูกพืชพันธุ์เมืองร้อน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เฮอร์ริเทจ การ์เด้นส์ (Heritage Gardens) และเวิล์ด ออฟ แพลนทส์ (World of Plants) ซึ่งทั้งหมดประกอบด้วยสวนย่อยๆ อีก 10 สวน
นอกเหนือจากการเป็นสวนที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญระดับโลกแล้ว “การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์” ยังจะเป็นสถานที่ที่ครอบครัว เพื่อนฝูง และคนในชุมชนสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ และสร้างความทรงจำใหม่ๆ ที่จะตราตรึงอยู่ในใจทุกคนได้อย่างแน่นอน

สวนสนุกดูเหมือนจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอยู่เสมอๆ ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ก็ยังคงสร้างเสียงหัวเราะและความตื่นเต้นได้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็สามารถใช้เวลาร่วมกัน หรืออาจจะไปกันทั้งครอบครัวเลยก็ยิ่งดี เด็กๆ ได้ความสนุก ผู้ใหญ่ก็ได้สัมผัสบรรยากาศ ย้อนวันวานไปอีกแบบหนึ่ง แถมยังช่วยเพิ่มความสัมผัสระหว่างกันได้อีกด้วย

สวนน้ำซานโตรินีนั้น ตั้งอยู่ระหว่าง หัวหิน – ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยรูปแบบตึกและอาคาร สีขาวและฟ้า ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ซานโตรินี ประเทศกรีซ โดยสวนน้ำแห่งนี้มีความกว้างอยู่ 60 ไร่ และเป็นสวนน้ำดิจิตอลแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชียอีกด้วย มีทั้งเครื่องเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชิงช้าสวรรค์ที่สามารถชมวิวได้ทั่วสวนสนุก และ G-Max Giant Swing ที่จะพาเราเหวี่ยงไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งหลังจากเล่นเสร็จเราจะได้รับประกาศนียบัตรอีกด้วย แต่เครื่องเล่นในสวนสนุกแห่งนี้จะเน้นไปที่สไลเดอร์สำหรับสวนน้ำเสียมากกว่า ที่มีมากถึง 10 ชนิดให้ได้ไปสนุกกัน มีทั้งสำหรับและสำหรับผู้ใหญ่ ให้ได้รับความสนุกกันทุกคน และนอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์สวนสนุกอย่างซานโตรินีก็ไม่ได้มีเพียงเครื่องเล่นอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีสถานที่สำหรับนักช็อปปิ้งของสาวๆ มากมาย และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่ถ่ายเท่าไหร่ก็ไม่รู้เบื่อ
ส่วนราคาค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็อยู่ที่ 900 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 500 บาทสำหรับเด็ก (ส่วนสูงอยู่ที่ 90 ถึง 130 เซนติเมตร) ผู้สูงอายุ (ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป) และคนพิการ